นกกระตั้วดำเป็นนกชนิดเดียวที่มีขนสีทึบคล้ายสีดำทั้งลำตัว และมีหงอนโค้งไปทางด้านหลังซึ่งตัวผู้จะมีขากรรไกรล่างที่ใหญ่กว่าตัวเมีย ลิ้นของนกชนิดนี้มีสีแดงแต่บริเวณปลายลิ้นมีสีดำ ขนมีลักษณะลู่ไปตามลมและมีปากสีเข้ม ขนมีสีเทาไล่ไปจนถึงดำ ขามีสีดำอมเทาและมีขนที่ต้นขา ใบหน้ามีรอยแต้มสีแดงที่ไร้ขนบริเวณ ข้างจงอยปาก
นกชนิดนี้มักจะพบได้ในป่าหนาทึบในเขตร้อน รวมไปถึง ป่าดิบแล้ง ชายป่า ป่ามรสุม ป่ายูคาลิปตัส และป่าเสม็ด พื้นที่บางส่วนที่มีการถางป่า และทุ่งสาวันนาที่มีต้นไม้ขึ้นอยู่หนาทึบ
ใบไม้อ่อน เมล็ดพืช และผลไม้ บางครั้งกินแมลง และตัวอ่อนของแมลง
นกกระตั้วดำมักจะพบได้ในทวีปออสเตรเลีย รวมไปถึง ประเทศปาปัวนิวกินี คาบสมุทรเคปยอร์ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศออสเตรเลีย เกาะอะรู เกาะอีเรียนตะวันตก เกาะมิสูล หรือเกาะปาปัวตะวันตก และเกาะอื่นๆ
สิ่งมีชีวิตที่มีความเสี่ยงต่ำต่อการสูญพันธุ์ของสหภาพสากลว่าด้วยการอนุรักษ์ (IUCN Red List 2010) ,สิ่งมีชีวิตที่จัดให้อยู่ในอนุสัญญาไซเตส ในบัญชีหมายเลข 1 (CITES 2010)
CLASS : Aves
ORDER : Psittaciformes
FAMILY : Cacatuidae
GENUS : Probosciger
SPECIES : Palm Cockatoo (Probosciger aterrimus)
สถานะภาพทางการอนุรักษ์ : สิ่งมีชีวิตที่มีความเสี่ยงต่ำต่อการสูญพันธุ์
ฤดูผสมพันธุ์ของนกชนิดนี้จะแตกต่างกันไปในแต่ละปีตามสภาพภูมิอากาศท้องถิ่นแต่โดยทั่วไปจะอยู่ในช่วงเดือนสิงหาคมถึงมกราคม และนกชนิดนี้จะวางไข่ 1 ใบภายในรังและจะฟักไข่ออกมาภายใน 30-33 วัน ลูกนกที่เพิ่งเกิดจะไม่มีขนและไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และจะเริ่มมีปีกงอกออกมาภายใน 100 – 110 วัน นอกจากนี้ นกชนิดนี้ยังเป็นนกในสายพันธุ์ที่ใช้เวลาในการงอกของปีกนานที่สุดในบรรดานกแก้วทั้งหมดอีกด้วย
แก้ไขข้อมูล ณ วันที่ 11 เมษายน 2560