นกกระเรียนพันธุ์ไทย/Eastern Sarus Crane (Antigone antigone sharpii)

สิ่งที่น่าสนใจ :

เป็นนกน้ำขนาดใหญ่ ลำตัวและปีกสีเทา คอตอนบนและหัวไม่มีขนแต่มีลักษณะเป็นตุ่มหนังสีส้มหรือสีแดงสด บริเวณกลางกระหม่อมเป็นแผ่นหนังเปลือยสีเทาหรือเขียวอ่อน คอยาว เวลาบินคอและขาจะเยียดตรง ขายาวสีแดงอมชมพู มีแผ่นขนหูสีเทา ม่านตาสีส้มแดง ตัวผู้มีขนาดใหญ่กว่าตัวเมีย

ถิ่นอาศัย :

พื้นที่ลุ่มน้ำ พื้นที่ชุ่มน้ำในเขตสูง พื้นที่เกษตรกรรม และทุ่งนา

อาหาร :

สัตว์น้ำ พืชน้ำ สัตว์น้ำขนาดเล็ก แมลง เมล็ดพืช ข้าวเปลือก

สถานภาพปัจจุบัน :

เป็นสัตว์ป่าสงวน 1 ใน 19 ชนิด ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 และนกชนิดนี้ได้สูญพันธุ์ไปจากประเทศไทย ปัจจุบันองค์การสวนสัตว์ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ได้นำประชากรนกกระเรียนพันธุ์ไทยปล่อยกลับคืนสู่ธรรมชาติในพื้นที่ชุ่มน้ำของ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งนกกระเรียนที่ปล่อยสามารถอยู่รอดและขยายพันธุ์ได้ในธรรมชาติ

อนุกรมวิธาน

CLASS : Aves

ORDER : Gruiformes

FAMILY : Gruidae

GENUS : Grus

SPECIES : Grus antigone

SUBSPECIES : G. a. sharpii

วัยเจริญพันธุ์ :

จับคู่แบบผัวเดียว เมียเดียว ผสมพันธุ์ในช่วงเดือนกรกฎาคม – กันยายน ทำรังขนาดใหญ่ ด้วยกิ่งไม้ขัดสานกันวางไข่ครั้งละประมาณ 1-3 ฟอง ระยะฟักไข่ประมาณ 31-34 วัน

ขนาดและน้ำหนัก :

ความสูงเฉลี่ยประมาณ 150-180 เซนติเมตร นำ้หนักประมาณ 5-9 กิโลกรัม

ข้อมูลอ้างอิง :

รายละเอียดเพิ่มเติม

สถานที่ชม :


แก้ไขข้อมูล ณ วันที่ 11 เมษายน 2560